Navalny Poisoning : การลอบสังหารที่สะเทือนวงการ정 trịรัสเซีย

เหตุการณ์การถูกวางยาพิษของอเล็กซี่ นาวัลนี (Alexei Navalny) ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญวงการเมืองและสังคมรัสเซียอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นาวัลนี เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและนักวิจารณ์ที่ outspoken อย่างมากต่อรัฐบาลของวลاديمิร์ ปูติน

ก่อนที่จะถูกวางยาพิษ นาวัลนี ได้สร้างชื่อเสียงจากการเปิดเผยเรื่องทุจริตของข้าราชการในรัสเซียผ่านช่อง Youtube และเว็บไซต์ของเขา การกระทำของเขานั้นได้สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลอย่างมาก เนื่องจากเขาเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้ภาพลักษณ์ของปูตินและพรรคสหพันธรัฐรัสเซียเสียหาย

เหตุการณ์การถูกวางยาพิษเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2020 ระหว่างที่นาวัลนี กำลังเดินทางโดยเครื่องบินจากเมือง Tomsk ไปยังมอสโก หลังจากดื่มชาบนเครื่องบิน นาวัลนี ก็เริ่มมีอาการชักและหมดสติอย่างรุนแรง

เมื่อเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่เมือง Omsk เพื่อนำส่งนาวัลนี ไปรักษาตัวในโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเขาถูกวางยาพิษด้วยสาร Nerve Agent ซึ่งเป็นชนิดของสารพิษร้ายแรงที่สามารถ paralyze ระบบประสาท

หลังจากนั้น นาวัลนี ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Charité ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่านาวัลนี ถูกวางยาพิษด้วย Novichok ซึ่งเป็นสารพิษประเภทเดียวกันที่ถูกใช้ในการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซีย Sergei Skripal ในปี 2018

เหตุการณ์การถูกวางยาพิษของนาวัลนี นั้นได้สร้างความโกรธและประณามจากนานาชาติ ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และสหภาพยุโรป ได้บังคับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

สาเหตุของการถูกวางยาพิษ:

• ความไม่พอใจต่อการวิจารณ์ของนาวัลนี: รัฐบาลรัสเซียอาจมองว่านาวัลนี เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของพวกเขา เนื่องจากเขาเปิดเผยเรื่องทุจริตและวิจารณ์ปูตินอย่างหนัก

• การพยายามกำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง: รัสเซียมีประวัติการกำจัดนักเคลื่อนไหวและผู้ที่คัดค้านรัฐบาล

ผลลัพธ์ของเหตุการณ์:

• ความไม่มั่นคงทางการเมืองในรัสเซีย: เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองในรัสเซีย และสร้างความกลัวให้กับนักเคลื่อนไหวและผู้ที่วิจารณ์รัฐบาล
• การประณามจากนานาชาติ: รัสเซียถูกประณามอย่างหนักจากนานาชาติ

เหตุการณ์การถูกวางยาพิษของนาวัลนี เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความไร้เหตุผล และความโหดร้ายของรัฐบาลรัสเซียต่อผู้ที่คิดต่าง

ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์

นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก และการเคารพสิทธิมนุษยชน